Featured

เวียดนามเหนือ ที่เที่ยว ไฮไลท์สวยโรแมนติก รับลมหนาว

ทัวร์เวียดนาม
เริ่ม ทัวร์เวียดนาม กันที่เมืองหลวง ฮานอย ซึ่งอยู่ทางทางเหนือของประเทศจ้ะ ฮานอยเป็นเมืองโบราณที่แก่กว่าพันปี ในสมัยก่อน เมืองฮานอยได้รับการกล่าวขวัญกันว่าเป็นเมืองหลวงที่งามที่สุดในทวีปเอเชียเชียวนะ จะมองเห็นได้ว่าในเมืองเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์วัวโลเนียลสวยสะกด พร้อมทั้งอาคารตึกรามบ้านช่องในสไตล์โบราณคลาสสิกไม่แพ้กันจ้ะ เป็นเมืองหลวงที่มีสไตล์ เดินเที่ยวถ่ายภาพกันแบบชิลล์ๆได้มีไม่เบื่อเลยจ้ะ
1.ฮานอยห้องอาหารชี้แนะในเมียนมาร์
ประเทศพม่า หรือภรรยานมา เป็นอีกหนึ่งจุดมุ่งหมายของนักแสวงบุญ เนื่องจากว่ามีสถานที่เที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์หลายที่ให้ได้ไปไหว้ขอพร เสริมความเป็นมงคลแก่ชีวิต
2.ฮาทดลองเบย์
ใน เวียดนามเหนือ ที่เที่ยว อีกแห่งที่เป็นที่รู้จักแล้วก็เป็นที่นิยมสุดๆก็คือที่ ฮาทดลองเบย์ หรือ อ่าวฮาทดลอง ที่เต็มไปด้วยเกาะหินปูนสูงลิ่วตั้งเรียงรายสลับกับเกาะแก่งเล็กๆท่ามกลางน้ำทะเลสีมรกตของอ่าวตังเกี๋ย ซึ่งอ่าวฮาทดลองได้รับการขึ้นบัญชีให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี 1994 จากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ เพราะเหตุว่ามีสิ่งอัศจรรย์จากธรรมชาติเกิดมากมายตรงนี้ เกาะหินปูนปริมาณ 1,969 เกาะ ที่โผล่พ้นขึ้นมาจากผิวสมุทรกระจัดกระจายอยู่ทั่วอ่าว ซึ่งข้างในเกาะก็ดาษดาไปด้วยอุโมงค์ลมที่โดนคลื่นกัดกร่อนจนกระทั่งแปลงเป็นความสวยงามอันน่าแปลกใจ ฮาทดลองเบย์ก็เลยยั่วยวนใจนักเดินทางให้มาเยี่ยมตรงนี้ตลอดทั้งปี โดยยิ่งไปกว่านั้นในตอนเดือนสิ้นเดือนพ.ค.แล้วก็ต้นเดือนเดือนสิงหาคม และก็มกราคมถึงมี.ค.ซึ่งเป็นตอนๆฤดูหนาว จะสามารถเห็นทะเลหมอกในเวลาเช้าได้อย่างเห็นได้ชัดที่สุด บรรยากาศโรแมนติกมากมายๆ
3.เมืองซาขว้าง
การเที่ยวเวียดนาม ฤดูหนาวคงบริบูรณ์ไปมิได้แม้พวกเราพลาด เวียดนามเหนือ ที่เที่ยว ตรงนี้จ้ะ เมืองซาขว้าง ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,650 เมตร ก็เลยมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี และก็ยังสงบเงียบ เหมาะกับมาท่องเที่ยวพักกับครอบครัว หรือจะมาสวีทหวานแหววกับคุณแฟนก็ได้นะ
4. อุทยานแห่งชาติบาเบ๋
สำหรับคนที่อยากได้ ท่องเที่ยวเวียดนามเหนือ ในบรรยากาศสงบเงียบ และก็อยากได้หลบความปั่นป่วนจากหมู่คน อีกหนึ่งสถานที่ที่ขอเสนอแนะเลยก็คือ อุทยานแห่งชาติบาเบ๋ (Ba Be National Park) สวนที่เปิดเป็นแห่งที่ 8 ของเวียดนามเมื่อปี 1992 กลับไม่ค่อยมีใครรู้จักจากนักเดินทางทั่วๆไปสักเท่าไหร่ เว้นเสียแต่นักเดินทางกรุ๊ปเล็กๆที่นิยมสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสงบเงียบ แล้วก็มีอากาศที่บริสุทธิ์ ซึ่งโอบล้อมไปด้วยน้ำตก ถ้ำ เทือกเขาหินปูน ทะเลสาบความยาวกว่า 8 กม. รวมทั้งสัตว์ป่านานาจำพวก
5. เกาะกั๊ตบา
กั๊ตบา เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮาทดลองเบย์ โดยมีพื้นที่แทบ 200 ตารางกิโลเมตร ทำให้ตรงนี้เต็มไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกมาก ถ้าเกิดเทียบกับเกาะอื่นๆในฮาทดลองเบย์ที่ส่วนมากจะเป็นเกาะเล็กเกาะน้อยที่เกือบจะไม่มีอะไรบนนั้น อย่างไรก็ตาม เสน่ห์ของการท่องเที่ยวเกาะกั๊ตบากลับอยู่ที่การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ รวมทั้งวัตนธรรม ซึ่งมีสถานที่เที่ยวสำคัญบนเกาะเป็น ป้อมแคนนอน ที่ทำขึ้นบนยอดดอยซึ่งเยอะที่สุดในเกาะกั๊ตบา เมื่อครั้งเวียดนามถูกประเทศฝรั่งเศสยึดครอง นักเดินทางที่มาเยี่ยมตรงนี้จะได้มองเห็นแนวบังเกอร์โบราณแล้วก็ฐานหยุดเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งห้อมล้อมไปด้วยวิวของเกาะกั๊ตบาที่งดงาม
6. เมืองบัคฮา
ใน เวียดนามเหนือ ที่เที่ยว ธรรมชาติงามๆเว้นแต่ที่เมืองซาขว้างแล้ว ยังมีอีกแห่งที่พลาดมิได้ก็คือ การมาเยี่ยมดินแดนที่ดอกไม้หลากสีที่ เมืองบัคฮา นั่นเองจ้ะ เมืองบัคฮาอยู่ห่างจากเลาไกโดยประมาณ 27 กม. เป็นเมืองเล็กๆที่สงบเงียบ แต่ว่าก็ออกจะโด่งดังในกลุ่มนักเดินทางไม่แพ้เมืองใหญ่ๆในเวียดนามเลย โดยเขพาสำหรับคนที่พอใจในเรื่องของชนเผ่าต่างๆที่อาศัยอยู่ในเวียดนามเหนือ ไม่ว่าจะเป็นชาวม้ง ไต เย้า ผู้ลาว จีน เวียดนาม ไลชิ เลอหรอ ปกาเก่อญอ ถู่ลาว อื่นๆอีกมากมาย ที่เต็มไปด้วยสีสันของเสื้อผ้าที่พวกเขายังคงรักษาวัฒนธรรมของตนได้อย่างดีเยี่ยม จนได้รับฉายานามว่า “The Flower Hmong of Sapa“
Featured

ห้องอาหารเสนอแนะในประเทศพม่า

ทัวร์พม่า
ประเทศพม่า หรือภรรยานมา เป็นอีกหนึ่งจุดหมายของนักแสวงบุญ เพราะเหตุว่ามีสถานที่เที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์หลายที่ให้ได้ไปไหว้ขอพร เสริมความเป็นมงคลแก่ชีวิต
สะกดรอยท่องเที่ยวเมียนมาร์ ประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่เว้นเสียแต่สถานที่เที่ยวแล้ว เมืองนี้ยังมีของกินที่สมบูรณ์บริบูรณ์ อีกด้วย โดยยิ่งไปกว่านั้นในเมืองปิ้งกุ้ง วันนี้พวกเราก็เลยจะพาคุณไปติดตามการเดินทางท่องเที่ยวในภรรยานมาของ คุณสมาชิกเลข 1877965 สมาชิกเว็บพันทิปดอทคอม ที่คราวนี้คุณได้รีวิวของกินแบบจัดหนักจัดเต็มในเมืองปิ้งกุ้งมาให้พวกเราได้ดูกัน ซึ่งมีของกินแบบรถเข็นข้างถนน ไปจนกระทั่งของกินเลิศหรูในห้าง ภรรยานมาจะมีอะไรน่ากินบ้าง ตามคุณไปดูกันเลยจ้ะ
ปิ้งกุ้ง : ร้านอาหารการะเวก ทำขึ้นในปี 2513 โดยเอาอย่างเรือกัญญา หัวเรือเป็นรูปนกการะเวก สัตว์ป่าในหิมพานต์
เป็นห้องอาหารที่สร้างเป็นรูปเรือขนาดใหญ่ ตั้งอยู่แกนกลางทะเลสาบในเมืองปิ้งกุ้ง ข้างในมีการแสดงท้องนาฎศิลปเมียนมาร์ จากจุดนี้สามารถแลเห็นมหาเจดีย์ชเวดากองสะท้อนผิวน้ำด้วย ส่วนของกินจัดเป็นแบบบุฟเฟต์นานาประเทศ รวมถึงของกินท้องถิ่นของประเทศพม่า
ปิ้งกุ้ง : Royal garden restaurant    ห้องอาหารอาหารจีน บรรยากาศในสวน เน้นย้ำในเรื่องของอาหารจีนและก็ซีฟู้ด
อยู่ใกล้กับ Chatrium Hotel บรรยากาศสไตล์ โต๊ะจีน ภายใน ตกแต่งงดงาม
ปิ้งกุ้ง : Western Park restaurant ห้องอาหารที่นี้ สะดุดตาในเรื่องเป็ดกรุงปักกิ่งและก็กุ้งมังกร แนวของกินจะเป็นแบบอาหารจีน เป็ดปิ้งของตรงนี้เมื่อสั่งแล้วจะมาเสิร์ฟพร้อมด้วยแสดงให้มอง ในตอนนี้เปิดทั้งหมดทั้งปวง 2 สาขาแล้ว
ปิ้งกุ้ง    : Golden Duck restaurant ห้องอาหารที่เลื่องลือของปิ้งกุ้ง ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ ของกินอร่อย ร้านค้าที่นี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ชเวดากองอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากว่าอยู่ไม่ไกลจากชเวดากอง ห้องอาหารที่นี้จะเต็มไปด้วยผู้คนมาทาน ส่วนมากเป็นพวกคนมั่งมีชาวประเทศพม่า
ปิ้งกุ้ง    : Oriental House restaurant ภัตาติดอยู่รติ่มซำ ร้านอาหารของกินติ่มซำเปิดขายในช่วงเวลาเช้า เลยเที่ยงตรงไปของก็จะหมดแล้ว ของกินเป็นพวกติ่มซำ บุคลากรจะชูของกินออกมาวางไว้ข้างหน้าพวกเรา สามารถเลือกทานได้ ถ้าเกิดเข่งไหนไม่ทานจะไม่คิดเงิน และก็ขึ้นชื่อลือชาของตรงนี้ชี้แนะให้ทานคู่กับระเบียงมร้อนของร้านค้าทานคู่ติ่มซำหอมอร่อยมาก ร้านค้าจะตั้งอยู่แถว พิพิธภัณฑสถานเมียนมาร์
หงสาวดี : ร้านอาหารเจ้าสัว ห้องอาหารที่นี้ ตั้งอยู่ที่เมืองหงสาวดี ขึ้นชื่อลือนามในเรื่องของกุ้งแม่น้ำ ข้างในร้านค้าตกแต่งแบบโล่งเตียนโปร่งสบาย
ประเทศพม่า : Nandar restaurant ร้านค้านี้ตั้งอยู่ที่เมืองประเทศพม่า มีการแสดงโชว์หุ่นกระบอกให้ได้ดู ของกินอร่อย อร่อยคนประเทศไทย
Featured

สถานที่จะต้องไปเที่ยวให้ได้ในเกาหลี

ทัวร์เกาหลี
โพชอน (Pocheon)
เรียกว่าโพชอนเป็นฝาแฝดกับพยองชางก็ได้ ด้วยเหตุว่าเป็นเมืองที่อยู่ติดๆกันซึ่งมีซอกเขามากซับซ้อนกว่า 70% ของพื้นที่อย่างยิ่งจริงๆ ซึ่งก็เป็นเมืองน่าทัวร์ในประเทศเกาหลีที่มีสกีรีสอร์ทเยอะแยะเปิดให้บริการในตอนหิมะตก แล้วก็ทิวทัศน์ทิวภาพที่งามอยู่แล้วของช่องเขารอบเมืองนี้ก็ยิ่งสวยเพิ่มขึ้นเมื่อถูกปลกหุ้มด้วยหิมะ แต่ว่าหากคุณต้องการเปลี่ยนบรรยากาศทัวร์ประเทศเกาหลีฤดูหนาวไปเป็นทัวร์ยุโรปฤดูหนาวล่ะก็ เพียงแค่มาทดลองท่องเที่ยวสวนสมุนไพรบนซอกเขาของเมืองมอง เพราะว่าบรรยากาศตึกแบบยุโรปของตรงนี้ทำให้สวนนี้ได้รับสมญานามอย่างงดงามว่า “เวเนเซียที่ประเทศเกาหลี” อย่างยิ่งจริงๆ
ยงอิน (Yongin)
ถ้าไม่ต้องการที่จะไปไหนไกลจากกรุงโซลนักล่ะก็ เมืองยงอินเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยสำหรับเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวดูหิมะในช่วงฤดูหนาว เพราะว่านอกเหนือจากตำแหน่งที่ตั้งงามๆของเนินสลับกับประเทศชาติที่มากมายไปด้วยฟูหิมะแล้ว เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศเกาหลี แน่ๆว่าในตอนหน้าหนาวอย่างนี้คุณจะต้องไม่พลาดเข้าไปเล่นเครื่องเล่นที่มีเฉพาะตอนหิมะตกอย่างลานสกี ลานลากเลื่อนสไลด์เดอร์แบบน่ารักน่าเอ็นดูๆเสมือนย้อนวัยเด็ก (แต่ว่าคุมด้านยากใช่เล่น!) ท้ายที่สุดรวมทั้งในที่สุดก็อย่าลืมดูการแสดงอันงดงามในตอนวันคริสต์มาสด้วย
อาซัน (Asan)
ถึงแม้อาซันจะเป็นเมืองเล็กๆด้านตะวันตกของประเทศเกาหลีใต้ ไม่ค่อยมีเทือกเขาหรือผื่นป่าเสมือนเมืองน่าท่องเที่ยวอื่นๆแต่ว่าอาซันเขามีของดีที่เมืองอื่นไม่มี โน่นเป็นบ่อน้ำแร่ที่ผุดขึ้นจากธรรมชาติ เมืองนี้ก็เลยเปลี่ยนเป็นเมืองที่บ่อน้ำพุร้อนและก็สปาของประเทศเกาหลีที่จะพีคแบบสุดๆในตอนหน้าหนาว ด้วยอากาศที่หนาวเย็นแล้วก็มีหิมะตก แต่ว่าคุณก็จะได้เสื้อผ้าแล้วสัมผัสกับการแช่น้ำร้อนกว่า 40 องศาในพื้นที่ที่โล่งแจ้งที่มีหิมะตกลงมาบนหัวได้! ด้วยเหตุว่าสปาและก็บ่อน้ำแร่จำนวนมากของตรงนี้เปิดโล่งเตียนรับอากาศด้านนอก บรรยากาศแบบฟินๆระหว่างหิมะแล้วก็ละอองน้ำร้อนก็เลยเป็นจุดพีคสุดๆของเมืองนี้
ซกโช (Sokcho)
ซกโชเป็นอีกหนึ่งเมืองที่บางทีอาจไม่ค่อยชินหูเท่าไร แม้กระนั้นสถานที่เที่ยวในเมืองนี้กลับมีชื่อมากมาย เมื่อพวกเรากล่าวถึงอุทยานแห่งชาติโซรัคซาน เขตป่าทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งจนกระทั่งดูเหมือนจะทุกทัวร์ประเทศเกาหลีฤดูหนาวจะต้องพาลูกทัวร์แวะมายกย่องความงดงามของผื่นป่าแล้วก็ซอกเขาที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะอย่างงดงาม แม้กระนั้นสวนที่นี้มิได้มีเพียงแค่ทิวทัศน์งามๆตอนต่อไปหนาวแค่นั้น ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในพฤศจิกายนก็งามไม่แพ้ใบไม้เปลี่ยนสีในประเทศญี่ปุ่นอย่างยิ่งจริงๆ จนกระทั่งโซรัคซานถูกตั้งชื่ออย่างไร้ข้อครหาว่า “สวิสเซอร์แลนด์ที่ประเทศเกาหลี”
โพฮัง (Pohang)
แม้คุณท่องเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ในตอนปีใหม่พอดิบพอดี ต้องห้ามพลาดเทศกาลที่จัดขึ้นเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงในวันเดียวเพียงแค่นั้นของเมืองโพฮัง โน่นเป็นเทศกาลดูดวงตะวันแรกของปีใหม่ในประเทศประเทศเกาหลี ซึ่งเมืองโพฮังเป็นเมืองทางทิศตะวันออกที่มีแหลมยื่นออกไปทางทะเลเป็นจุดทิศตะวันออกสุดของประเทศ ชาวประเทศเกาหลีล้นหลามจะหลั่งไหลมาฉลองแสงอาทิตย์ของวันที่ 1 ม.ค.กันที่แหลมนี้ เป็นบรรยากาศที่เหน็บหนาวแล้วก็จะต้องคอยอย่างช้านานก่อนแสงสว่างแรกของปีใหม่จะสาดความอบอุ่นออกมาจากโพ้นเส้นขอบฟ้า

5 สถานที่เที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ ที่คุณห้ามพลาดเป็นอันขาด อัพเดท 2018

เกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่คนประเทศไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว เนื่องจากใช้เวลาเดินทางไม่นานเพียงแต่ 5-6 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว และยังเป็นประเทศไม่ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวอีกด้วย ถ้าจะกล่าวถึงสถานที่เที่ยวในเกาหลีนั้นอันที่จริงแล้วมีมากไม่น้อยเลยทีเดียวหลายแห่ง ด้วยเหตุนั้นผู้ใดกำลังแพลุกลนท่องเที่ยวหรือกำลังตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวประเทศไหนดี ทดลองตามมาดู 15 สถานที่เที่ยวห้ามพลาดในประเทศเกาหลี แล้วจะต้องอยากไปเที่ยวแน่ๆ

1. วังเคียงบกกุง Gyeongbokgung Palace
ราชสำนักเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า “พระราชสำนักคยองบกกุง” เป็นทั้งยังสัญญลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของกรุงโซล พระราชวังที่มีขนาดใหญ่และก็เก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล ผลิตขึ้นในปี 1394 ในสมัยพระเจ้าแทโจ ราชวงศ์โชซอน แต่ก่อนนั้นภายในราชสำนักมีตึกรวมทั้งตำหนักต่างๆมากกว่า 200 ข้างหลัง แต่ว่าเมื่อมีการรุกรานของญี่ปุ่น ตึกโดยมากก็ได้ถูกทำลายลงเหลืออยู่เพียง 10 หลังเพียงแค่นั้น

2. เกาะนามิ สุดโรแมนว่ากล่าวค Namiseom Island
เกาะนามิมีต้นเหตุมาจากผลการกั้นน้ำเพื่อสร้างเขื่อน มีพื้นที่ราว 270 ไร่ มีลักษณะเป็นรูปดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยว บนเกาะนี้เป็นที่รู้จักในหมู่คนประเทศเกาหลีมานานเนื่องจากมีธรรมชาติที่สวยงามยังมีสัตว์เล็กๆอาศัยอยู่ตามธรรมชาติเป็นต้นว่า กระรอก กระแต นก หงส์ ห่าน รวมถึงนกกระจอกเทศด้วย รวมทั้งที่นี่จะนำสายไฟลงใต้ดินทั้งปวง เพียงแค่รักษาความเที่ยงธรรมชาติเอาไว้ โดยตอนที่มีนักท่องเที่ยวมาสูงที่สุดจะเป็นช่วงๆฤดูใบไม้ร่วง ด้วยเหตุว่าต้นไม้มากไม่น้อยเลยทีเดียวที่นี่จะเปลี่ยนสีเหลือง สีแดง สีส้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟุตบาทใต้ต้นแปะก๊วยที่จะแปลงใบเป็นสีเหลืองสดงดงามมากมาย แม้กระนั้นตรงนี้คนจะมากตลอดทุกฤดู

3. รางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา – Gyeonghwa Station
ทางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา – Gyeonghwa Station ยอดเยี่ยมในจุดดูซากุระที่งามลำดับแรกๆของประเทศเกาหลีเลยก็ว่าได้ โดยสามารถเห็นรถไฟที่วิ่งมาหยุดที่สถานีพร้อมด้วยทิวทัศน์อุโมงค์ดอกซากุระที่เรียงรายกันอยู่เต็มทั้งสองข้างทางในตอนโดยประมาณต้นเดือนเมษายน สถานีรถไฟคยองฮวาแห่งนี้เป็นสถานีเล็กๆที่อยู่ที่เมืองจินแฮ (Jinhae) จังหวัดเคียงซังนัมโด (Gyeongsangnam-do) ได้มีการยกเลิกการใช้แรงงานไปแล้วตั้งแต่ปี 2015 แต่จะเปิดให้รถไฟวิ่งเฉพาะในช่วงเทศกาล Jinhae Gunhangje Festival ซึ่งเป็นเทศกาลชมดอกซากุระที่จัดอย่างมากใหญ่ของเมืองจินแฮ แต่ว่ารถไฟนั้นจะมิได้มาหยุดที่สถานี เพียงแต่ใช้เป็นทางผ่านไปยังสถานีอื่นๆ

4. อุโมงค์ซากุระ คลองยอชวาชอน – Yeojwacheon Stream
อุโมงค์ซากุระ ลำคลองยอชวาชอน – Yeojwacheon Stream เป็นเลิศในจุดที่มีชื่อสูงที่สุดในการชมดอกซากะของเมืองจินแฮ เริ่มเป็นที่รู้จักกันหลังจากซีรีย์เรื่อง Romance ออกอากาศเมื่อปี 2002 ซึ่งใช้คลองแห่งนี้เป็นฉากสำหรับในการถ่ายทำ เลื่องลือจนถึงมีชื่อเรียกสะพานที่ใช้ข้ามคลองตามชื่อซีรีย์มันก็คือ Ramance Bridge

ในทุกๆเมษายนของทุกปีซึ่งเป็นช่วงๆที่มีเทศกาลดูดอกซากุระ ที่คลองแห่งนี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมความสวยสดงดงามของดอกซากุระ สามารถเดินเที่ยวได้อีกทั้งข้างบนสะพานรวมทั้งข้างล่างซึ่งจะมีทางเท้ายาวตลอดแนวเรียบไปกับคลองน้ำ รวมทั้งยังมีดอกเรปซีดเซียวซึ่งเป็นดอกไม้ต้นเล็กออกดอกสีเหลืองบานพร้อมกันซากุระอีกด้วย แต่ละปีก็จะมีการประดับตกแต่งรอบๆลำคลองในตอนที่จัดงานเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นการนำร่มที่สีสันผ่องใสมาแขวนไว้หรือจะเป็นโคมรูปหัวใจน่ารักๆรวมทั้งในช่วงช่วงเวลาค่ำคืนก็จะเปิดไฟประดับประดางามมาก

5. บริเวณช้อปปิ้งเมียงป่า หรือ มยองดง
บริเวณช้อปปิ้งเมียงดง หรือ มยองดง (Myeong-dong) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล เป็นบริเวณช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมรวมทั้งคักคักที่สุดของกรุงโซล ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน อีกทั้งยังสามารถเดินทางได้สะดวก ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของการเมือง เศรษฐกิจ แล้วก็วัฒนธรรมเลยทีเดียว ด้านในตลาดเมียงมองป่าดงเต็มไปด้วยร้าน และก็ห้องอาหารนับไม่ถ้วน เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวและก็นักช้อป

ห้าง
ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุด อย่างเช่น ห้างลอตเต้(Lotte) กับห้างคุ้นชินเซมึง(Shinsegae) ส่วนร้านรวงอื่นๆก็ตั้งอยู่ทุกซอกมุม รวมถึงแผงลอยข้างถนนที่เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องแต่งตัว ผลิตภัณฑ์อื่นๆในราคาถูก รวมทั้งอาหารว่างแสนอร่อย โดยเถ้าแก่โดยมากสามารถกล่าวภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่น จีน รวมทั้งไทยได้

เป็นยังไงบ้าง 5 สถานที่เด็ดไหม สามารถติดตามดูการจัดสถานที่เที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีอีกเยอะมากจริงๆประเทศนี้ท่องเที่ยวอย่างไรก็ไปไม่หมดง่ายๆหวังว่าเพื่อนพ้องๆอาจชอบ และก็ติดตามบทความของพวกเรา คนใดกันถูกใจขอความปรานีแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกันด้วยนะ แล้วพบกันตอนใหม่

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เกาหลี

5 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในเวียดนามที่คุณจะต้องไป อัพเดท 2018

เมื่อเอ่ยถึงเวียดนามใครๆก็มักจะคิดถึง โฮจิมินห์ เมืองหลวงทางตอนใต้ แต่ทราบไหมมีสถานที่เที่ยวใหม่ๆน่าดึงดูดอีกเยอะมากในเวียดนามที่ในตอนนี้กำลังเป็นกระแสเป็นอย่างมากๆที่คุณไปเวียดนามจะต้องไม่พลาด พวกเรามาอัพเดทกันวันท่องเที่ยวเวียดนามทั้งทีจำต้องสุดๆ5 สถานที่ที่ไหนกันบ้าง เริ่มกันเลย

1. เที่ยวบาน่าฮิลล์ ดานัง (Bana Hill, Danang)
บานาฮิลล์ เป็น โรงแรม บนยอดเขา อยู่ห่างจากเมืองดานังประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 40-50 นาที ส่วนประวัติความเป็นมา เทือกเขาบานา เคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวตากอากาศมาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยข้างบนเป็นบ้านพักและก็โรงแรมของชาวฝรั่งเศสสมัยเป็นเจ้าอาณานิคมตั้งแต่ปี 1919 หลังการสู้รบชาวประเทศฝรั่งเศสพ่ายแพ้กลับประเทศไป บานาฮิลล์ถูกทิ้งร้างอยู่ยาวนานหลายปี จวบจนกระทั่งถูกกลับมาซ่อมเป็นเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวมากมายเป็นจำนวนมากอีกรอบในปี 2009 ซึ่งมีการสร้างกระเช้าลอยฟ้า 5,801 เมตร ที่ใช้เวลาถึง 50 นาทีในการนั่งกระเช้าจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน ค่าครองชีพสำหรับการก่อสร้างเคเบิลคาร์ระยะแรกมีมูลค่า 17.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แล้วก็ตอนที่สร้างต่อเพิ่มไปถึงยอดดอย มีมูลค่า 5.7 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา

ดังนี้ บานาฮิลล์ ถูกสร้างขึ้นตามมาตรฐานยุโรปโดยบริษัทที่มีชื่อจากประเทศออสเตรเลีย เครื่องมือแล้วก็เครื่องจักรนำเข้าจากยุโรป ตลอดทางประกอบไปด้วยเสา 24 ต้น มีทั้งหมดทั้งปวง 94 เคบิน กระเช้ามีทั้งยังแบบเปิดโล่งเตียนโอเพ่นแอร์กับแบบห้องกระจก แต่ละเคบินบรรทุกผู้โดยสารได้ 10 คน ด้านในหนึ่งชั่วโมงสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,500 คน

2.ท่องเที่ยวถ้ำฟองญา (Phong Nha Caves)
เวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความจำเป็นทางประวัติศาสตร์ หรือแม้กระทั่งสถานที่สำหรับท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยสดงดงามและน่ามาเยี่ยมมากแห่งหนึ่งของโลก และวันนี้เราจะขอชี้แนะสถานที่เที่ยวที่มีทั้งความงดงาม แล้วก็ความประทับใจ

โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังของอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่างเป็นถ้ำฟองญา (Phong Nha Cave) เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำซอน (Son River) ที่สะสมน้ำจากใต้ดินไหลรวมกันมาจากด้านในถ้ำ รวมทั้งได้รับการยอมรับจาก นักตรวจสอบถ้ำทั้งโลกว่า เป็นถ้ำลำดับต้นๆของโลก เพราะเป็นเจ้าของสถิติถึง 4 รายการเช่น น้ำลอดยาวที่สุดในโลก, โถงถ้ำมากที่สุด ยาวที่สุด รวมทั้งกว้างที่สุด

“อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง” (Phong Nha-Ke Bang National Park) คืออีกหนึ่งจุดมุ่งหมายด้านการท่องเที่ยวที่น่ามาเยือนมากแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความเด่นทางธรรมชาติและทางธรรีวิทยา ที่มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่สมัยน้ำแข็ง (หรือราว 400 ล้านปี) นั่นก็เลยส่งผลให้อุทยานแห่งนี้มีพื้นที่แบบหินปูนที่ดั้งเดิมที่สุดในเอเซีย อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง ตั้งอยู่ในอำเภอโบ๊จะ (Bo Trach) และอำเภอมิญหวา (Minh Hoa) ในเขตจังหวัดกว๋างบิ่ญ (Quang Binh) และก็ติดชายแดนประเทศลาว ห่างจากกรุงฮานอยมาด้านใต้ราวๆ 500 กม. ข้างในเขตสวนมีกรุ๊ปหินปูนมีขนาดพื้นที่ 857.54 ตารางกิโลเมตร อุทยานนี้มีชื่อเสียงในความสวยของถ้ำที่มีอยู่จำนวนไม่ใช่น้อย รวมทั้งยังเป็นสถานที่ 1 ใน 2 ของโลกที่เป็นหินปูนที่มีลำธารใต้ดินขนาดใหญ่

3.เที่ยวอ่าวฮาทดลอง (Ha Long Bay)
ฮาลองเบย์ หรือ อ่าวฮาลอง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกที่ในประเทศเวียดนามที่ชื่อเสียงมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาดชม โดยที่นี่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์กรยูเนสโกเนื่องจากมีความสวยสดงดงามของธรรมชาติเยอะแยะ

ฮาลองเบย์ เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย เมืองฮาลองตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อยู่ในพื้นที่จังหวัดกว่างนิงห์ ไม่ไกลจากกรุงฮานอยเมืองหลวง โดยห่างออกไปทางตะวันออกราวๆ 170 กม. และก็อยู่ใกล้กับประเทศจีน ฮาทดลองเบย์ มีพื้นที่ทั้งหมดทั้งปวง 1,500 ตารางกิโลเมตร มีริมฝั่งยาว 120 กิโลเมตร มีเกาะหินปูนปริมาณ 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเล บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามซุกซ่อนอยู่

สำหรับประวัติความเป็นมา ฮาทดลองเบย์ มีชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามว่า Vinh Ha Long หมายถึง อ่าวมังกรผู้ดำตรง ตามตำนานประชาชนเวียดนามบอกกันว่า ในอดีตกาลที่ชาวเวียดนามกำลังทำศึกกับจีน เทพเจ้าได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยเหลือ ซึ่งถัดมามังกรพวกนี้ได้ดำตรงลงสู่ทะเลรอบๆอ่าวฮาลอง ทำให้มีเพชรนิลจินดารวมทั้งหยกพุ่งกระเด็นออกมากลายเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายตัวเป็นเกราะคุ้มครองผู้บุกรุก แล้วก็บางตำนานพูดถึงสัตว์โบราณที่ชื่อว่า Tarasque ซึ่งมั่นใจว่าอาศัยอยู่ที่รอบๆตูดอ่าว

4.เที่ยวเมืองซาขว้าง ท้องนาข้าวบนเขา (Sa Pa)
ซาปา เป็นเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวมากมายเป็นจำนวนมากที่มีเสน่ห์เยอะที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศเวียดนาม ด้วยพื้นที่อันสวยงามที่กลุ้มรุมไปด้วยยอดเขาจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลังคาโลกอินโดจีน ส่วนอากาศหนาวเย็นแทบตลอดปีทำให้ตอนเช้าของที่นี่มีไอหมอกปกคลุมงาม ในแต่ละปี ซาขว้าง จึงล่อใจนักท่องเที่ยวจากทั่วทั้งโลกให้แวะเวียนมาท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก

ในส่วนของประวัติความเป็นมา ซาขว้าง เป็นเมืองเล็กๆที่นักเดินทางต่างประเทศเริ่มเดินทางมาพักตั้งแต่ยุคที่ประเทศฝรั่งเศสยังปกครองประเทศเวียดนาม โดยคนยุโรปชื่นชอบตรงนี้ด้วยเหตุว่าอากาศดีแล้วก็เงียบสงบ ต่อมาซาขว้างก็เลยโด่งดังรวมทั้งเป็นที่นิยมจากนักเดินทางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมหลายหมื่นคนต่อปี

5.ท่องเที่ยวหมุยแหน ภูเขาทรายสองสี (The Sand Dunes of Mui Ne)
นักเดินทางที่เดินทางมายังที่ที่นี้ยืนยันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทรายเพราะเหตุว่าเทือกเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่คนไม่ใช่น้อยรู้จักกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่และอยู่ใกล้กับชายทะเล ก็เลยมีแดดแล้วก็ลมที่แรงมากทีเดียว ที่นี่มีเนินทรายอยู่ 2 ที่หมายถึงภูเขาทรายขาวแล้วก็ภูเขาทรายแดง ซึ่งภูเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang และมีห้องอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วยสำหรับเทือกเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แม้กระนั้นได้รับความนิยมมากยิ่งกว่าในสายตาของช่างภาพ ด้วยเหตุว่าสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายภาพออกมาแล้วสีงามกว่าที่เทือกเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิต คือ การเล่นกระดานเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาข้างล่างซึ่งวัสดุอุปกรณ์สำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆภูเขาทราย

รายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้ : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แม้กระนั้นตอนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับในการมาเที่ยวเป็น ตอนเวลาเช้าหรือไม่ก็ช่วงเย็น เพราะเหตุว่าช่วงเวลากลางวันถึงช่วงบ่ายนั้นอากาศและแดดแรงมากมาย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและก็ประวัติศาสตร์ กล่าวได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้ตรวจตราท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่นอน ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมถึงค่ายังชีพก็ไม่แพงอีกด้วยจ้ะ

เทือกเขาทรายสองสีที่หมุยแหน นักเดินทางที่เดินทางมายังที่ที่นี้ยืนยันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทราย ด้วยเหตุว่าเทือกเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่ผู้คนจำนวนมากรู้จักกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่แล้วก็อยู่ติดกับริมทะเล ก็เลยมีแดดแล้วก็ลมที่แรงมากทีเดียว ที่นี่มีเนินทรายอยู่ 2 ที่หมายถึงภูเขาทรายขาวและเทือกเขาทรายแดง ซึ่งเทือกเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang รวมทั้งมีห้องอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย สำหรับภูเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แม้กระนั้นเป็นที่นิยมมากกว่าในสายตาของคนถ่ายภาพ เนื่องจากสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายภาพออกมาแล้วสีงามกว่าที่เทือกเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตหมายถึงการเล่นบอร์ดเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาข้างล่าง ซึ่งวัสดุอุปกรณ์สำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

ข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แม้กระนั้นขณะที่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับเพื่อการมาท่องเที่ยวหมายถึงเวลาเช้าหรือไม่ก็ช่วงเย็นเนื่องจากช่วงกลางวันถึงตอนเวลาบ่ายนั้นอากาศและแดดจัดมากมาย
เป็นยังไงบ้างค่ะ สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีอีกทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้วก็ประวัติศาสตร์ กล่าวได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้ตรวจตราท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่ๆ ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่ายังชีพก็ไม่แพงอีกด้วย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เวียดนาม

5 สถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ ที่คุณห้ามพลาดเป็นอันขาด อัพเดท 2018

ประเทศเกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่คนประเทศไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว เพราะใช้เวลาเดินทางไม่นานแค่เพียง 5-6 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว และยังเป็นประเทศไม่ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวอีกด้วย หากจะเอ่ยถึงสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีนั้นอันที่จริงแล้วมีมากมายก่ายกองหลายแห่ง เพราะฉะนั้นคนไหนกำลังแพลนท่องเที่ยวหรือกำลังตัดสินใจว่าจะท่องเที่ยวประเทศไหนดี ลองตามมาดู 15 สถานที่เที่ยวห้ามพลาดในเกาหลี แล้วจะต้องอยากไปเที่ยวแน่ๆ

1. พระราชวังเคียงบกกุง Gyeongbokgung Palace
พระราชสำนักเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า “วังคยองบกกุง” เป็นสัญญลักษณ์และสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของกรุงโซล ราชสำนักที่มีขนาดใหญ่แล้วก็โบราณที่สุดในกรุงโซล ทำขึ้นในปี 1394 ในสมัยพระเจ้าแทโจ วงศ์สกุลโชชอน แรกเริ่มนั้นด้านในพระราชวังมีตึกและวังต่างๆมากยิ่งกว่า 200 ข้างหลัง แต่เมื่อมีการรุกรานของประเทศญี่ปุ่น อาคารโดยมากก็ได้ถูกทำลายลงเหลืออยู่เพียงแต่ 10 หลังเพียงแค่นั้น

2. เกาะนามิ สุดโรแมนติค Namiseom Island
เกาะนามิมีต้นเหตุที่เกิดจากผลของการกั้นน้ำเพื่อสร้างเขื่อน มีพื้นที่ราวๆ 270 ไร่ มีลักษณะเป็นรูปดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยว บนเกาะนี้มีชื่อในหมู่คนเกาหลีมานานเหตุเพราะมีธรรมชาติที่งามยังมีสัตว์เล็กๆอาศัยอยู่ตามธรรมชาติได้แก่ กระรอก กระแต นก หงส์ ห่าน รวมถึงนกกระจอกเทศด้วย และที่นี่จะนำสายไฟลงใต้ดินทั้งหมดทั้งปวง เพียงรักษาความชอบธรรมชาติเอาไว้ โดยขณะที่มีนักท่องเที่ยวมาเยอะที่สุดจะเป็นตอนฤดูใบไม้ร่วง เพราะเหตุว่าต้นไม้มากมายก่ายกองตรงนี้จะเปลี่ยนสีเหลือง สีแดง สีส้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางเท้าใต้ต้นแปะก๊วยที่จะแปลงใบเป็นสีเหลืองสดงามมาก แต่ว่าตรงนี้คนจะเยอะแยะตลอดทุกฤดู

3. ทางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา – Gyeonghwa Station
รางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา – Gyeonghwa Station เป็นเยี่ยมในจุดดูซากุระที่สวยอันดับหนึ่งของประเทศเกาหลีเลยก็ว่าได้ โดยสามารถแลเห็นรถไฟที่วิ่งมาจอดที่สถานีกับทิวทัศน์อุโมงค์ดอกซากุระที่เรียงรายกันอยู่เต็มทั้งสองข้างทางในช่วงราวๆต้นเดือนม.ย. สถานีรถไฟคยองฮวาแห่งนี้เป็นสถานีเล็กๆที่อยู่ที่เมืองจินแฮ (Jinhae) จังหวัดเคียงซังนัมโด (Gyeongsangnam-do) ได้มีการยกเลิกการใช้แรงงานไปแล้วตั้งแต่ปี 2015 แม้กระนั้นจะเปิดให้รถไฟวิ่งเฉพาะในช่วงเทศกาล Jinhae Gunhangje Festival ซึ่งเป็นเทศกาลชมดอกซากุระที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ของเมืองจินแฮ แม้กระนั้นรถไฟนั้นจะมิได้มาจอดที่สถานี เพียงใช้เป็นทางผ่านไปยังสถานีอื่นๆ

4. อุโมงค์ซากุระ ลำคลองยอชวาชอน – Yeojwacheon Stream
อุโมงค์ซากุระ คลองยอชวาชอน – Yeojwacheon Stream ยอดเยี่ยมในจุดที่โด่งดังมากที่สุดสำหรับเพื่อการชมดอกซากะของเมืองจินแฮ เริ่มมีชื่อเสียงกันภายหลังจากซีรีย์เรื่อง Romance กระจายเสียงเมื่อปี 2002 ซึ่งใช้ลำคลองแห่งนี้เป็นฉากสำหรับเพื่อการถ่ายทำ โด่งดังจนกระทั่งมีชื่อเรียกสะพานที่ใช้ข้ามลำคลองตามชื่อซีรีย์มันก็คือ Ramance Bridge

ในทุกๆเมษายนของทุกปีซึ่งเป็นช่วงที่มีเทศกาลชมดอกซากุระ ที่คลองแห่งนี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาดูความสวยงามของดอกซากุระ สามารถเดินเล่นได้ทั้งยังด้านบนสะพานและด้านล่างซึ่งจะมีทางเท้ายาวตลอดแนวเรียบไปกับคูน้ำ แล้วก็ยังมีดอกเรปซีดเผือดซึ่งเป็นดอกไม้ต้นเล็กออกดอกสีเหลืองบานพร้อมซากุระอีกด้วย แต่ละปีก็จะมีการตกแต่งตกแต่งบริเวณลำคลองในตอนที่จัดงานเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นการนำร่มที่สีสันผ่องใสมาห้อยไว้หรือจะเป็นโคมรูปหัวใจน่ารักๆและก็ในตอนช่วงเวลาค่ำคืนก็จะเปิดไฟประดับประดางดงามมากมาย

5. บริเวณช้อปปิ้งเมียงป่าดง หรือ มยองดง
บริเวณช้อปปิ้งเมียงมองป่า หรือ มยองป่าดง (Myeong-dong) ตั้งอยู่ศูนย์กลางกรุงโซล เป็นเขตช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมรวมทั้งคักคักที่สุดของกรุงโซล ยั่วยวนใจนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน ทั้งยังยังสามารถเดินทางได้สบาย นับว่าเป็นศูนย์กลางของการเมือง เศรษฐกิจ และก็วัฒนธรรมอย่างยิ่งจริงๆ ด้านในตลาดเมียงป่าดงเต็มไปด้วยร้าน และร้านอาหารนับไม่ถ้วน เป็นเยี่ยมในสถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวแล้วก็นักช้อป

ห้าง
ห้างที่ใหญ่ที่สุด อย่างเช่น ห้างลอตเต้(Lotte) กับห้างเคยชินเซแก(Shinsegae) ส่วนร้านอื่นๆก็ตั้งอยู่ทุกซอกมุม รวมทั้งร้านค้าเคลื่อนที่ริมถนนที่จัดจำหน่ายเสื้อผ้า เครื่องเพชรพลอย เครื่องแต่งตัว ผลิตภัณฑ์อื่นๆในราคาถูก รวมทั้งของว่างแสนอร่อย โดยเจ้าของร้านจำนวนมากสามารถบอกภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่น จีน รวมทั้งไทยได้

เป็นไงบ้าง 5 สถานที่เด็ดไหม สามารถติดตามดูการจัดสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีอีกเยอะแยะจริงๆประเทศนี้ท่องเที่ยวยังไงก็ไปไม่หมดง่ายๆหวังว่าสหายๆอาจถูกใจ แล้วก็ติดตามบทความของพวกเรา ผู้ใดกันประทับใจได้โปรดกรุณาแชร์ให้เพื่อนพ้องๆได้อ่านกันด้วยนะ แล้วเจอกันตอนใหม่

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เกาหลี

5 สถานที่เที่ยวในประเทศเมียนมาร์ที่คุณต้องไป ไม่ใช่แค่การไปไหว้พระ อัพเดท 2018

ถ้าเกิดพูดถึง ประเทศพม่า เพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเมืองไทย โดยมากหลายท่านมักระลึกถึงการไปไหว้พระเท่านั้น แม้กระนั้นความจริงเมียนมาร์ ยังมีสถานที่เที่ยวน่าสนใจหลายสไตล์ ที่มีค่าแก่การไปสัมผัสสักหนึ่งครั้ง วันนี้เราเก็บรวบรวม 5 สถานที่เที่ยวพม่า นอกเหนือจากการไหว้พระ มาให้ทุกคนรู้จัก จะมีที่ไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย

1. เมืองพุกาม สมุทรเจดีย์รวมทั้งวิถีชีวิตแบบประเทศพม่าๆ
ถือเป็นโชคดีของชาวประเทศพม่า ที่พุทธรุ่งโรจน์ถึงระดับสูงสุดเหมือนกันในเวลานั้น ทำให้พระเจ้าอโนรธามังช่อรับเอาศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำประเทศ พระองค์สร้างเจดีย์ที่แรกขึ้น ชื่อ “เจดีย์ชเวซีโกน” แล้วกษัตริย์รุ่นต่อๆมา รวมทั้งเสนาบดีรวมทั้งผู้มีอันจะกินทั้งหลายแหล่ในประเทศพม่าก็ระดมสร้างวัด สร้างเจดีย์กันเต็มพื้นที่ไปหมด อาจเพราะว่าความเชื่อที่ว่า ยิ่งเล่นใหญ่ เอ๊ย!! ยิ่งสร้างวัดใหญ่มหึมาเพียงใด ยิ่งได้บุญกุศลบารมีมากเท่านั้น

อาณาจักรประเทศพม่าเคยเจริญรุ่งเรืองขนาดไหนเราอาจไม่ต้องบรรยาย เนื่องจากเกือบ 1,000 ปีที่ผ่านมาทั้งหมดทุกอย่างได้พิสูจน์ตนเองไปเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ตัวเราต่างหากที่จะต้องมาพิสูจน์ความโหฬารนั้นด้วยตาของพวกเราเอง จากเจดีย์กว่า 4,446 องค์ วันนี้เหลือแค่ 2,200 กว่าองค์ ไม่รีบมาดูซะวันนี้ก็ไม่ทราบว่าอีกหน่อยจะเหลือให้ดูแค่ไหน

2. ตะลุยสวนน้ำ Yangon Water Boom
ถ้าหากโลกนี้มันร้อนนัก ก็ไปพักผ่อนเล่นน้ำกันที่สวนน้ำ Yangon Water Boom กันดีกว่า! สถานที่เที่ยวในประเทศพม่า อีกแห่งที่อยากเชื้อเชิญคุณมาคลายร้อน โดยสวนน้ำ Yangon Water Boom นับว่าเป็นสวนน้ำแห่งแรกของพม่า ตั้งอยู่ในเมืองปิ้งกุ้ง ตรงนี้คุณจะได้เจอกับสไลด์เดอร์สุดแจ๋วระดับโลก อีกทั้ง “Free Fall Slides” หวาดเสียวกับสไลด์เดอร์ที่มีความสูงถึง 15 เมตร! ให้ท่านไหลลื่นลงมาด้วยความเร็วกว่า 70 กม./ชั่วโมง เรียกว่าเสียวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว หรือจะเป็น “Python” ให้ท่านและเพื่อนพ้องๆนั่งสไลด์เดอร์ไปสนุกด้วยกัน ผ่านท่อสีเขียวที่วนเวียน ยาวกว่า 60 เมตร! ยิ่งไปกว่านี้ยังมีโซนสำหรับคุณหนูอย่าง “Kiddy pool” สนามเด็กเล่นที่ให้น้องๆได้ชุ่มฉ่ำกับสายน้ำเย็น พร้อมบริการอุปกรณ์สำหรับอำนวยความสะดวกทั้งยังล็อกเกอร์ บังกะโล ซาลอน ห้องอาหาร ร้านขายของที่ระลึก อย่างครบครัน หนีร้อนไปสนุกกับสวนน้ำในย่างกุ้งกันดีกว่า

3. ท่องเที่ยวสะพานอูเบ็ง สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก!
สะพานไม้โบราณ ที่แก่กว่า 200 ปี ทอดยาวด้วยความยาว 1,200 เมตร ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน สร้างด้วยไม้ปริมาณพันกว่าต้น พวกเราสามารถเดินดูสะพานไม้ไปเรื่อยๆได้ แล้วก็ยิ่งในขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะตกลงน้ำ(ดิน) บรรยากาศบริเวณรอบๆสะพาน จะเห็นได้ว่าแสงพระอาทิตย์เป็นประกายกับสายน้ำ นอกเหนือจากที่จะได้ดูความงามของตะวันขึ้นแล้วก็ตกแล้ว ยังได้มองเห็นวิถีชีวิตของคนเมียนมาด้วย เป็นประสบการณ์ที่สุดประทับใจกันอย่างยิ่งจริงๆ

ของร้านค้าขายน้ำดื่ม ขายอาหารบนเกาะ ดูพระอาทิตย์ตกในทะเลสาบ แถมมีปลาแล้วก็กุ้งใหม่ๆจากทะเลสาบ ให้ได้ลิ้มรส นั่งพักผ่อนสบายๆแล้วรอดูดวงตะวันตกได้อีกด้วย วิธีท้ายที่สุดเป็นแนวทางที่เสียตังน้อยที่สุด คือ สามารถยืนชมทิวทัศน์บนสะพานได้เลย ได้สัมผัสบรรยากาศไปอีกคนละอย่างแรง

4. ทะเลสาบอินเล ทะเลสาบน้ำจืด รวมทั้งวิถีชีวิตคนอินเล
ทะเลสาบอินเล ตั้งอยู่กลางประเทศพม่าเลยก็ว่าได้ ทะเลสาบอินเลอยู่ในเมือง Nyaung Shwe เมืองเล็กๆที่ชาวบ้านดำเนินชีวิตท่ามกลางทะลสาบ .. หื้มมม? เป็นประชาชนเค้าสร้างบ้านรวมทั้งพักอาศัยกันในทะเลสาบเลยแกรเอ้ยยย ต่อนี้ไปเนี่ย แน่นอนการดำรงอยู่และก็การเพาะปลูกหรือเกษตรกรรมของเค้าต้องเกี่ยวกับทางน้ำ ดังเช่น การปลูกมะเขือเทศบนสวนลอยน้ำ การสร้างบ้านแบบเสาค้ำกลางน้ำ รวมถึงยานพาหนะต้องอย่างเรือ ที่แน่นอนมีจอดอยู่ทุกบ้าน แล้วที่สุดของทะเลสาบอินเลคือความสามารถพิเศษของชาวอินค้างเนี่ยแหละ การพายเรือด้วยเท้าข้างเดียวสำหรับเพื่อการเดินทางรวมถึงจับสัตว์ในน้ำที่ไม่เหมือนใครในโลก ดังมากมายเว้ย ดังจนที่นี่เป็นอีกจุดหมายปลายทางนึงที่นักเดินทางจำต้องมาดูเลยแหละ รู้แบบนี้แล้วตามไปเลยสิจ้าา

5. สัมผัสเกาะหัวใจมรกต ที่สมุทรเมียนมาร์.
เกาะค๊อกคอม เกาะหัวใจมรกต (Cocks Comb) เป็นเกาะที่อยู่ในทะเลอันดามัน ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งจังหวัดระนองแค่เพียงโดยประมาณ 81.2 กม.เพียงแค่นั้น เกาะที่นี้มีลักษณะเป็นเกาะหินปูน ไม่มีริมหาด มีช่องว่างอยู่กลางเกาะ คล้ายกับปากปล่องภูเขาไฟ มีช่องเล็กๆให้น้ำทะเลเข้าไปได้ ถ้าดูจากมุมสูงจะมีความเห็นว่าช่องกึ่งกลางนี้มีรูปร่างคล้ายกับรูปหัวใจ เมื่อมีน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวใสแจ๋วเข้าไปในนั้น เพิ่มเติมกับรอบๆรอบปากปล่องมีต้นไม้สีเขียวขจี ทำให้รูปร่างหัวใจนี้เห็นแจ่มแจ้ง จนได้รับการตั้งชื่อจากชาวไทยว่าเป็น “เกาะหัวใจมรกต” ซึ่งคนต่างประเทศจะรู้จักกันในชื่อ “Hidden Lagoon”

มองเห็นไหมล่ะว่า การไปท่องเที่ยวประเทศพม่า ก็ไม่ได้มีแม้กระนั้นการไปไหว้พระ หรือ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สิ่งเดียวเพียงแค่นั้น เมียนมาร์ยังมีแหล่งธรรมชาติงามๆอีกมากมาย โดนใจคนชอบเที่ยวชิลล์ๆสไตล์สโลว์ไลฟ์ ถ้าได้โอกาสทดลองไปเปิดมุมมองใหม่ให้การเที่ยวพม่ากว้างขึ้นกว่าเดิม

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

5 สถานที่เที่ยวในประเทศเมียนมาร์ที่คุณจำเป็นต้องไป ไม่ใช่แค่การไปไหว้พระ อัพเดท 2018

ถ้าเอ๋ยถึง ประเทศพม่า เพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากประเทศไทย ส่วนใหญ่หลายคนมักรำลึกถึงการไปไหว้พระเท่านั้น แต่ว่าข้อเท็จจริงพม่า ยังมีสถานที่เที่ยวน่าดึงดูดหลายสไตล์ ที่มีค่าแก่การไปสัมผัสสักครั้ง วันนี้พวกเรารวบรวม 5 สถานที่เที่ยวเมียนมาร์ นอกเหนือจากการไหว้พระ มาให้ทุกคนรู้จัก จะมีที่ไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย

1. เมืองพูกาม ทะเลเจดีย์และก็วิถีชีวิตแบบประเทศพม่าๆ
นับว่าเป็นโชคดีของชาวประเทศพม่า ที่ศาสนาพุทธรุ่งเรืองถึงจุดสุดยอดด้วยเหมือนกันขณะนั้น ทำให้พระผู้เป็นเจ้าอโนรธามังช่อรับเอาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ท่านสร้างเจดีย์แห่งแรกขึ้น ชื่อ “เจดีย์ชเวซีโกน” แล้วต่อจากนั้นกษัตริย์รุ่นต่อๆมา รวมทั้งเสนาบดีแล้วก็ผู้มีอันจะกินทั้งหลายแหล่ในพูกามก็ระดมสร้างวัด สร้างเจดีย์กันเต็มพื้นที่ไปหมด คงเพราะว่าความศรัทธาที่ว่า ยิ่งเล่นใหญ่ เอ๊ย!! ยิ่งสร้างวัดใหญ่โตเพียงใด ยิ่งได้บุญกุศลบารมีมากเท่านั้น

อาณาจักรพุกามเคยก้าวหน้าขนาดไหนพวกเราคงไม่ต้องชี้แจง เนื่องจากว่าเกือบจะ 1,000 ปีที่ผ่านมาทุกอย่างได้พิสูจน์ตนเองไปเรียบร้อยแล้ว ตัวเราต่างหากที่ต้องมาพิสูจน์ความใหญ่โตนั้นด้วยตาของเราเอง จากเจดีย์กว่า 4,446 องค์ วันนี้เหลือเพียง 2,200 กว่าองค์ ไม่รีบมาดูซะวันนี้ก็ไม่เคยรู้ว่าอีกหน่อยจะเหลือให้มองขนาดไหน

2. ตะลุยสวนน้ำ Yangon Water Boom
หากโลกนี้มันร้อนนัก ก็ไปพักเล่นน้ำกันที่สวนน้ำ Yangon Water Boom กันเลยดีกว่า! สถานที่เที่ยวในประเทศพม่า อีกแห่งที่อยากชวนคุณมาคลายร้อน โดยสวนน้ำ Yangon Water Boom ถือเป็นสวนน้ำที่แรกของประเทศพม่า ตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้ง ตรงนี้คุณจะได้พบกับสไลด์เดอร์สุดเจ๋งระดับโลก ทั้งยัง “Free Fall Slides” หวาดเสียวกับสไลด์เดอร์ที่มีความสูงถึง 15 เมตร! ให้ท่านไหลลื่นลงมาด้วยความเร็วกว่า 70 กิโล/ชั่วโมง เรียกว่าเสียวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว หรือจะเป็น “Python” ให้คุณแล้วก็เพื่อนๆนั่งสไลด์เดอร์ไปสนุกสนานร่วมกัน ผ่านท่อสีเขียวที่เลี้ยวไปเลี้ยวมา ยาวกว่า 60 เมตร! นอกเหนือจากนี้ยังมีโซนสำหรับคุณหนูอย่าง “Kiddy pool” สนามเด็กเล่นที่ให้น้องๆได้ชุ่มฉ่ำกับสายน้ำเย็น พร้อมบริการสิ่งอำนวยความสะดวกอีกทั้งล็อกเกอร์ บังกะโล ซาลอน ห้องอาหาร ร้านขายของที่ระลึก อย่างครบครัน หนีร้อนไปสนุกสนานกับสวนน้ำในปิ้งกุ้งกันดีกว่า

3. เที่ยวสะพานอูเบ็ง สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก!
สะพานไม้โบราณ ที่มีอายุกว่า 200 ปี ทอดยาวด้วยความยาว 1,200 เมตร ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน สร้างด้วยไม้จำนวนพันกว่าต้น พวกเราสามารถเดินดูสะพานไม้ไปเรื่อยๆได้ และก็ยิ่งในตอนที่ดวงตะวันกำลังจะตกลงน้ำ(ดิน) บรรยากาศบริเวณรอบๆสะพาน จะเห็นได้ว่าแสงพระอาทิตย์แวววาวกับสายน้ำ นอกเหนือจากการที่จะได้ดูความสวยของตะวันขึ้นและตกแล้ว ยังได้เห็นวิถีชีวิตของคนภรรยานมาด้วย เป็นประสบการณ์ที่สุดติดตราตรึงใจกันเลยทีเดียว

ของร้านขายเครื่องดื่ม ขายของกินบนเกาะ ดูดวงตะวันตกในทะเลสาบ แถมมีปลารวมทั้งกุ้งสดๆจากทะเลสาบ ให้ได้ชิมรส นั่งพักผ่อนสบายๆแล้วรอคอยดูดวงตะวันตกได้อีกด้วย แนวทางท้ายที่สุดเป็นแนวทางที่เสียตังต่ำที่สุดหมายถึงสามารถยืนชมวิวบนสะพานได้เลย ได้สัมผัสบรรยากาศไปอีกคนละอย่างแรง

4. ทะเลสาบอินเล ทะเลสาบน้ำจืด และวิถีชีวิตคนอินเล
ทะเลสาบอินเล ตั้งอยู่กลางประเทศพม่าเลยก็ว่าได้ ทะเลสาบอินเลอยู่ในเมือง Nyaung Shwe เมืองเล็กๆที่ชาวบ้านดำรงชีวิตท่ามกลางทะลสาบ .. หื้มมม? เป็นชาวบ้านเค้าก่อสร้างบ้านและอาศัยกันในทะเลสาบเลยแกรเอ้ยยย ต่อนี้ไปเนี่ย แน่นอนการดำรงชีวิตและการเพาะปลูกหรือทำการเกษตรของเค้าต้องเกี่ยวกับทางเรือ ตัวอย่างเช่น การปลูกมะเขือเทศบนสวนลอยน้ำ การสร้างบ้านแบบเสาค้ำกลางน้ำ รวมถึงยานพาหนะต้องอย่างเรือ ที่แน่ๆมีหยุดอยู่ทุกบ้าน แล้วที่สุดของทะเลสาบอินเลเป็นพรสวรรค์ของชาวอินติดอยู่เนี่ยแหละ การนำยเรือด้วยเท้าข้างเดียวสำหรับเพื่อการเดินทางรวมถึงจับสัตว์ในน้ำที่ไม่ซ้ำใครในโลก ดังมากมายโว้ย ดังจนกระทั่งที่นี่เป็นอีกจุดหมายปลายทางนึงที่นักเดินทางจำเป็นต้องมาดูเลยล่ะ รู้อย่างงี้แล้วตามไปเลยสิจ้าา

5. สัมผัสเกาะหัวใจมรกต ที่สมุทรพม่า.
เกาะค๊อกคอม เกาะหัวใจมรกต (Cocks Comb) เป็นเกาะที่อยู่ในทะเลอันดามัน ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งจังหวัดระนองเพียงประมาณ 81.2 กิโลเมตรแค่นั้น เกาะแห่งนี้มีลักษณะเป็นเกาะหินปูน ไม่มีชายหาด มีช่องว่างอยู่กลางเกาะ คล้ายกับปากปล่องภูเขาไฟ มีช่องเล็กๆให้น้ำทะเลเข้าไปได้ แม้ดูจากมุมสูงจะมีความคิดเห็นว่าช่องตรงกลางนี้มีรูปร่างคล้ายกับรูปหัวใจ เมื่อมีน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวใสแจ๋วเข้าไปในนั้น เพิ่มเติมกับรอบๆรอบปากปล่องมีต้นไม้สีเขียวขจี ทำให้รูปร่างหัวใจนี้มองเห็นกระจ่าง จนได้รับการตั้งชื่อจากคนไทยว่าเป็น “เกาะหัวใจมรกต” ซึ่งคนประเทศอื่นจะรู้จักกันในนาม “Hidden Lagoon”

มองเห็นไหมล่ะว่า การไปเที่ยวเมียนมาร์ ก็มิได้มีแม้กระนั้นการไปไหว้พระ หรือ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียวแค่นั้น ประเทศพม่ายังมีแหล่งธรรมชาติสวยๆอีกเยอะมาก ต้องใจคนชอบเที่ยวชิลล์ๆสไตล์สโลว์ไลฟ์ ถ้าเกิดได้โอกาสทดลองไปเปิดมุมมองใหม่ให้การท่องเที่ยวประเทศพม่ากว้างขึ้นกว่าเดิม

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

ข้อมูลที่ควรรู้ในประเทศพม่า

การตรวจลงยี่ห้อ (VISA) 
คนไทยที่ถือหนังสือเดินทางปกติต้องขอรับการตรวจลงยี่ห้อจากสถานทูตประเทศพม่าก่อนเดินทางไปเมียนมาร์ ซึ่งโดยปกติจะมีอยู่ 3 ประเภท เป็น
– Tourist Visa พักพิงอยู่ในประเทศพม่าได้ 4 อาทิตย์
– Business Visa พักพิงอยู่ในพม่าได้10 อาทิตย์
– Entry Visa อาศัยอยู่ในพม่าได้ 4 อาทิตย์
คนที่อยากได้อยู่ในพม่าเกินกว่า 4 สัปดาห์ จะต้องยื่นเรื่องขอ Stay Permit จากกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองของพม่า ดังนี้คนที่อยู่ในพม่าเกินกว่า 4 สัปดาห์ ต้องยื่น Departure Form ต่อทางการประเทศพม่าก่อนจะเดินทางออกนอกประเทศพม่า
ความเป็นอยู่ ความเป็นอยู่ในประเทศพม่า มีความสบายเฉพาะอยู่ในกรุงย่างกุ้งแล้วก็เมืองใหญ่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเท่า นั้น ในกรุงปิ้งกุ้งมีโรงแรมชั้นเลิศตามมาตรฐานหลายแห่ง สำหรับคนที่จะไปอยู่เพื่อดำเนินการหรือประกอบธุรกิจมีที่พักให้เลือกอีกทั้งบ้านเช่า หรือ Serviced apartment การอยู่อพาร์ทเมนท์มีข้อดีในแง่ที่ผู้เช่าไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลหรือกลุ้มใจปัญหาไฟฟ้าแล้วก็น้ำ ประปา แต่ค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าออกจะสูงส่วนผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในกรุงย่างกุ้งหาซื้อได้ทั่วไปโดยมีสินค้าที่นำเข้าจากไทยหลายสิ่งหลายอย่างและในกรุงปิ้งกุ้งมีห้องอาหารไทยหลาย ร้าน คนที่จะเข้าไปเขตวัดหรือพุทธเจดีย์ ต้องถอดรองเท้าแล้วก็ถุงเท้า บางที่เรียกเก็บเงินค่าเข้าชมสถานที่ด้วย รัฐบาลได้กำหนดห้ามฝรั่งเดินทางไปยัง บางเมืองหรือบางพื้นที่หากนักท่องเที่ยวต้องการไปเมืองที่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวของเมียนมาร์ ควรสำรวจข้อมูลกับบริษัทนำเที่ยวก่อนในกรุงย่างกุ้งมีรถโดยสารรวมทั้งรถยนต์ แท็กซี่ แต่ว่าคนขับแท็กซี่ส่วนมากพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ราคาขึ้นกับการต่อรองเพราะรถแท็กซี่ไม่มีมิเตอร์ ในกรุงปิ้งกุ้งมีสถานพยาบาลที่ล้ำสมัยไม่ กี่ที่ และเหมาะสมเพียงการรักษาพยาบาลเบื้องต้นเท่านั้น ผู้เดินทางไปพม่าควรจะเตรียมยา ดังเช่น ยาแก้ไข้หวัด ยาแก้ท้องเดิน แล้วก็ยาประจำตัวไปด้วย รวมทั้งควรจะเลือกทานอาหารที่สะอาด
คำแนะนำ กรณีหนังสือเดินทางหาย ขอให้รีบแจ้งเหตุต่อโรงพักท้องถิ่น แล้วนำหลักฐานการแจ้งความไปยื่นต่อสถานทูต เพื่อขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ถ้าหนังสือเดินทางหมดอายุก็สามารถขอยืดอายุหรือขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ที่สถานทูตได้เช่นกัน ผู้ที่อยู่ในประเทศพม่าควรจะตรวจดูอายุหนังสือเดินทางอยู่เสมอ
ข้อควรกระทำ
1 ในที่สาธารณะควรจะแต่งตัวสุภาพมีมารยาท รัดกุม เป็นระเบียบ โดยเฉพาะการเข้าไปในวัดและศาสนสถานจะต้องถอดถุงเท้า รองเท้า ถุงน่อง สุภาพสตรีไม่สมควรแต่งกายด้วยกระโปรงสั้น 
2 ต้องมีความสุภาพในวัดรวมทั้งศาสนสถาน ไม่ส่งเสียงดังก่อกวนผู้อื่น (ดังนี้ วัดบางแห่งบางทีอาจเรียกเก็บค่าเข้าชมด้วย)
3 ควรให้ความเคารพต่อคนสูงอายุ แล้วก็ใช้คำกริยาคำพูดอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นระเบียบเรียบร้อย
4 ต่อราคาผลิตภัณฑ์และค่าโดยสารรถแท๊กซี่ได้
5 ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพควรตระเตรียมยาประจำตัวมาด้วย
6 ควรรอบคอบเลือกทานอาหารและก็น้ำกินจากร้านที่สะอาดถูกสุขอนามัย โดยเฉพาะน้ำ ควรจะกินน้ำที่บรรจุในขวด
7 ควรแลกเงินดอลลาร์สหรัฐติดตัวมาให้เพียงพอด้วยเหตุว่าโรงแรมร้านในเมียนมาร์ จำนวนมากจะไม่รับบัตรเครดิตหรือ Traveller’s Cheque ภาวะของธนบัตรควรอยู่ในภาวะใหม่ ดี ไม่ยับไม่มีรอยขีดข่วนรวมทั้งควรเป็นธนบัตรแบบใหม่ ทั้งนี้ธนบัตร 100 ดอลลาร์สหรัฐ จุดหมายเลขขึ้นต้นด้วย CB โฮเต็ลแล้วก็ร้านรวงในพม่าอาจไม่ยอมรับที่จะไม่รับ
8 เนื่องจากว่าเมียนมาร์ใช้ระบบการจราจรขับขี่รถชิดทางขวาของถนนหนทางซึ่งแตกต่างจากไทยจึงควร ใช้ความรอบคอบสำหรับในการเดินเท้าและก็การข้ามถนนหนทางเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
ข้อไม่สมควรทำ
1 ไม่ควรกล่าวว่ากล่าว เทียบประเทศพม่าในทางลบ เพราะเหตุว่ามีชาวประเทศพม่าจำนวนหลายชิ้นซึ่งสามารถรู้เรื่องภาษาไทยได้
2 เมียนมาร์ได้เปลี่ยนแปลงชื่อประเทศเป็นthe Union of Myanmar ตั้งแต่ปี 2531 ก็เลยไม่ควรใช้ ชื่อเดิม(Burma) กับชาวประเทศพม่า

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

10 สิ่งที่ต้องรู้และก็ควรจะทำเมื่อท่องเที่ยวในเมียนมาร์

1. จัดเวลามากกว่า 1 อาทิตย์สำหรับในการท่องเที่ยวท่องเที่ยวดู
การเที่ยวประเทศพม่าควรต้องใช้เวลามากยิ่งกว่า 1 สัปดาห์ ด้วยการเดินทางที่ยังไม่สะดวกนักแล้วก็เส้นทางที่ยาวไกล 1 อาทิตย์ดูจะเร่งร้อนเกินความจำเป็นและยังเที่ยวได้ไม่ทั่ว หากคุณมีเวลา 2 หรือ 4 สัปดาห์ให้วางแผนเส้นทางท่องเที่ยวรอบๆแหล่งท่องเที่ยวหลัก 4 แห่งโดยการบินไปลงเมืองใหญ่สักแห่งและบินกลับจากอีกเมืองหนึ่ง
2. สัมผัสประวัติศาสตร์ พร้อมๆกับชอปและกินให้กระจายในปิ้งกุ้ง
ย่างกุ้ง เป็นเมืองขนาดกะทัดรัดที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีสถาปัตยกรรมจากสมัยอาณานิคมกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกมุมเมืองเชิญชวนให้คนึงถึงอดีตกาลที่ประเทศนี้อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ในเวลาที่มหาเจดีย์ชเวดากองก็ส่องประกายสีทองสวยงามเป็นเครื่องหมายของศาสนาพุทธอันก้าวหน้า ตรงนี้ชุมชนชาวจีน เนปาล และประเทศอินเดียตั้งอยู่ข้างเคียงชุมชนชาวพม่า ที่พักราคาเริ่มต้นที่ 3,xxx บาท
3. หลงทางในวัดที่พูกาม
พูกาม ดินแดนลึกลับเหนือระยะเวลานี้เป็นที่ตั้งของวัดกว่า 2,000 แห่งที่สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 9 ตั้งแต่วัดขนาดใหญ่ที่สง่าสวยสดงดงาม ไปจนถึงวัดเล็กๆที่สร้างละเอียดลออบรรจง ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะรู้สึกเสมือนกำลังเดินทางย้อนเวลา ที่นี่ใช้การเดินทางด้วยรถม้าเป็นหลัก (ราวๆ 600 บาทต่อวัน) แม้กระนั้นการขี่จักรยาน (ราว 90 บาทต่อวัน) เป็นวิธีเดินทางที่เยี่ยมที่สุดสำหรับในการท่องเที่ยวแบบเต็มวันและก็ทำตัวกลมกลืนไปกับผู้คนนับร้อย ที่พักในพูกาม ราคาเริ่มที่ 5xx บาท
4. ค้นพบความเงียบสงบและจารีตประเพณีดั้งเดิมที่ทะเลสาบอินเล
ทะเลสาบอินเล (ใหญ่เป็นชั้นสองของพม่า) เป็นเช่นกระจกส่องสีน้ำเงินสะท้อนภาพอันงามของหมู่บ้านเล็กๆเขื่อนที่สร้างด้วยมือและก็คลองที่ใช้คนขุด ตรงนี้ยังคงรักษาประเพณีเก่าแก่(รวมทั้งชาวเรือที่พายเรือด้วยเท้าด้านเดียว) บรรยากาศเงียบสงบ และก็การค้าแบบดั้งเดิม ทั้งยังมีตลาดผลไม้ อุตสาหกรรมสิ่งทอ แล้วก็สวนองุ่นที่อยู่ไม่ไกล ถ้าหากอยากดูทะเลสาบแบบสงบเงียบไม่ต้องฝ่าผู้คนพวกเราขอเสนอแนะให้รีบไปแต่เช้า
5. ลิ้มลองของอร่อย รวมทั้งหัวเราะร่า ขณะท่องไปในเมืองมัณฑะเลย์อันงดงาม
มัณฑะเลย์ เป็นเมืองที่มีกิจกรรมอันนานัปการให้ทำจนกระทั่งล้นเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการชมทิวทัศน์เมืองจากยอดดอยมัณฑะเลย์ ภายหลังที่เร่ร่อนทัวร์ไปในราชวัง เจดีย์ รวมทั้งหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลิ้มรสอาหารใหม่ๆจากร้านค้าเคลื่อนที่สองข้างทางซึ่งมีมากมายจนน่าทึ่งที่กระจายตัวอยู่ทั่วเมือง และก็หัวเราะให้สนั่นกับญาติหนวดนักเล่นตลกการเมืองที่จัดการแสดงตลกโปกฮาวันแล้ววันเล่าในบ้านของครอบครัว ตั๋วเครื่องบินไปมัณฑะเลย์ราคาเริ่มต้นที่ 3,xxx บาท
6. ไปเดินป่าหลายๆวัน รวมทั้งนั่งรถไฟผ่านสะพานที่สูงที่สุด
หากการเดินป่าแบบสามวันจากสีป้อไปลาชิวยังเร้าใจไม่เพียงพอ ให้เพิ่มรายการนั่งรถไฟสายที่สร้างโดยอังกฤษผ่านสะพานรถไฟก๊อกเต๊กซึ่งเป็นสะพานรถไฟที่สูงที่สุดในประเทศพม่า รถไฟสายที่จะทำให้คุณใจเต้นระทึกนี้ผ่านเมืองพินอูลวินซึ่งเป็นเมืองอาณานิคมเก่า เมื่อรถไฟไปถึงสะพานแล้ว อย่าลืมมองดูลงมาให้ได้ เนื่องจากว่าความสูงที่น่าหวาดเสียวจะทำให้คุณลืมไม่ลงไปเลยทีเดียว
7. ลงใต้ไปเยือนเกาะสวรรค์ หมู่เกาะมะริด พม่า
เนื่องจากว่าเขตตอนเหนือหลายเมืองยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปได้ ด้านใต้ก็เลยเป็นที่ๆเข้าถึงได้ง่ายดายเสียยิ่งกว่าเพราะเหตุว่าได้เปิดให้เที่ยวชมได้มากกว่า 1 ปีแล้ว มะละแหม่งและทวายเป็นทางที่ไม่มีอะไรเทียบเคียงได้แล้วก็ให้บรรยากาศท้องถิ่นสุดๆซึ่งจะนำคุณไปยังเมืองมะริดอันน่าแปลก เมืองนี้เองเป็นประตูสู่หมู่เกาะมะริดที่สวยงามเหลือเชื่อโดยคุณสามารถคิดแผนล่วงหน้าเพื่อจองทัวร์ล่องเรือและทัวร์แบบค้างแรมหลายๆที่พักในเมืองมะริด ราคาเริ่มที่ 5xx บาท
8. เลือกว่าจะไปตอนไหนดี
คุณมีสองช่องทางเป็น ฤดูท่องเที่ยวในต.ค.ถึงก.พ.ซึ่งอากาศกำลังสบายแต่มีนักท่องเที่ยวล้นหลามและก็ตัวเลือกที่พักก็เหลือน้อย หรือจะไประหว่างก.พ./เดือนมีนาคม ถึง เดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นตอนที่นักท่องเที่ยวน้อยกว่าแม้กระนั้นอากาศก็ร้อนอย่างยิ่ง ลองเลือกแบบที่ใช่กันเลย!
9. ดอลล่าร์แบงค์ใหม่ๆสำหรับจ่ายโฮเต็ล อื่นๆจ่ายด้วยเงินจ๊าด
ในพม่าคุณจะต้องใช้เงินดอลล่าร์แบงค์ใหม่ๆซึ่งหาได้จากแหล่งเปลี่ยนเงินใกล้บ้านหรือในกรุงเทพฯ แล้วนำดอลล่าร์ไปแลกเงินจ๊าดถึงที่กะไว้สนามบิน เกสท์เฮ้าส์ หรือธนาคารในพม่า เงินดอลล่าร์ใช้สำหรับจ่ายค่าที่พัก ส่วนเงินจ๊าดใช้จ่ายเงินค่าอื่นๆตามทางยกตัวอย่างเช่น อาหาร ค่าพาหนะ แล้วก็ของฝาก ในเมียนมาร์มีตู้เครื่องรับฝากถอนเงินอัตโนมัติเฉพาะในเมืองใหญ่ 
10. ขับร้องฆ่าเวลาขณะเดินทาง รถไฟในพม่า
รักจะท่องเที่ยวประเทศพม่าจำต้องศึกษาที่จะสนุกสนานไปกับการเดินทางบนรถบัสอันยาวนาน เนื่องจากเป็นการขนส่งหลักที่ใช้เดินทางไปทั่วประเทศ รถบัสหลายคันจะออกตอนบ่ายแก่ๆโดยคุณจะไปถึงที่หมายในช่วงเวลาค่ำ หรือย่ำรุ่งวันพรุ่งนี้ บนรถบัสมักจะมีคาราโอเกะไว้บริการและก็บางคันก็เปิดคาราโอเกะตั้งแต่รถยนต์ออกไปจนถึงจุดหมายอย่างยิ่งจริงๆ

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

ร้านอาหารแนะนำในประเทศพม่า

ประเทศพม่า หรือภรรยานมา เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักแสวงบุญ ด้วยเหตุว่ามีสถานที่เที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งให้ได้ไปกราบไหว้ขอพร เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
ตามรอยท่องเที่ยวประเทศพม่า ประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่นอกเหนือจากสถานที่เที่ยวแล้ว เมืองนี้ยังมีอาหารที่สมบูรณ์บริบูรณ์ อีกด้วยโดยยิ่งไปกว่านั้นในเมืองปิ้งกุ้ง วันนี้พวกเราก็เลยจะพาคุณไปติดตามการเดินทางท่องเที่ยวในภรรยานมาของ คุณสมาชิกเลขลำดับ 1877965 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ครั้งนี้เธอได้รีวิวของกินแบบจัดหนักจัดเต็มในเมืองย่างกุ้งมาให้เราได้ชมกัน ซึ่งมีอีกทั้งของกินแบบรถเข็นข้างถนน ไปจนถึงอาหารเลิศหรูในห้างสรรพสินค้า เมียนมาจะมีอะไรน่ากินบ้าง ตามคุณไปชมกันเลยจ้ะ
ปิ้งกุ้ง : ห้องอาหารการะเวก สร้างขึ้นในปี 2513 โดยเอาอย่างเรือกัญญา หัวเรือเป็นรูปนกการะเวก สัตว์ป่าในหิมพานต์
เป็นร้านอาหารที่สร้างเป็นรูปเรือขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางทะเลสาบในตัวเมืองปิ้งกุ้งภายในมีการแสดงทุ่งนาฎศิลปประเทศพม่า จากจุดนี้สามารถมองเห็นมหาเจดีย์ชเวดากองสะท้อนผิวน้ำด้วย ส่วนอาหารจัดเป็นแบบบุฟเฟต์นานาชาติ รวมถึงอาหารประจำถิ่นของเมียนมาร์
ปิ้งกุ้ง : Royal garden restaurant ร้านอาหารอาหารจีน บรรยากาศในสวน เน้นในเรื่องของอาหารจีนและก็ซีฟู้ด
อยู่ใกล้กับ Chatrium Hotel บรรยากาศสไตล์ โต๊ะจีน ด้านในตกแต่งสวยสดงดงาม 
ย่างกุ้ง : Western Park restaurant ร้านอาหารแห่งนี้เด่นในเรื่องเป็ดกรุงปักกิ่งและก็กุ้งมังกร แนวอาหารจะเป็นแบบอาหารจีน เป็ดปิ้งของตรงนี้เมื่อสั่งแล้วจะมาเสิร์ฟพร้อมกับแสดงให้ดู ขณะนี้เปิดทั้งปวง 2 สาขาแล้ว 
ปิ้งกุ้ง : Golden Duck restaurant ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงของปิ้งกุ้ง ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ อาหารอร่อยร้านที่นี้สามารถเห็นวิวชเวดากองอย่างแจ่มแจ้งด้วยเหตุว่าอยู่ไม่ไกลจากชเวดากองห้องอาหารแห่งนี้จะเต็มไปด้วยผู้คนมาทาน ส่วนมากเป็นพวกคนมั่งมีชาวเมียนมาร์
ย่างกุ้ง : Oriental House restaurant ภัตาคารติ่มซำร้านอาหารอาหารติ่มซำเปิดขายในช่วงเช้า เลยเที่ยงไปของก็จะหมดแล้วอาหารเป็นพวกติ่มซำ บุคลากรจะยกของกินออกมาวางไว้ด้านหน้าพวกเรา สามารถเลือกทานได้ แม้เข่งไหนไม่ทานจะไม่คิดเงิน และก็ขึ้นชื่อของตรงนี้ชี้แนะให้ทานคู่กับระเบียงมร้อนของร้านทานคู่ติ่มซำหอมอร่อยมาก ร้านจะตั้งอยู่แถว พิพิธภัณฑ์ประเทศพม่า
หงสาวดี : ห้องอาหารเจ้าสัว ร้านอาหารแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่เมืองหงสาวดี ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องของกุ้งแม่น้ำ ภายในร้านค้าตกแต่งแบบเตียนโปร่งสบาย
พม่า : Nandar restaurant ร้านนี้ตั้งอยู่ที่เมืองพม่า มีการแสดงโชว์หุ่นกระบอกให้ได้ชมอาหารอร่อย ถูกปากคนประเทศไทย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

ไหว้พระพม่า รวม 5 สถานที่ทำบุญทำทาน เสริมดวงบารมี

วันนี้ทางพวกเราจึงได้เก็บรายนาม 5 วัดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไหว้พระประเทศพม่านิยมไปกัน ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง !
1.พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda)
เมื่อเอ๋ยถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศพม่าแล้ว คนโดยมากชอบคิดถึงพระมหาเจดีย์ชเวดากอง มาก่อนเป็นอันดับแรกๆสถานที่สุดฮิตอันดับ 1 ของทัวร์ไหว้พระเมียนมาร์ เพราะมีรายการวิทยุแล้วก็รายการทีวีหลายรายการป้องกันอย่างยิ่งจริงๆที่จัดทัวร์ไหว้พระพม่าตรงนี้ ก็เลยไม่ประหลาดใจว่าเพราะเหตุใดพวกเราถึงคุ้นชื่อเจดีย์ชเวดากองจากเมืองปิ้งกุ้งเป็นอย่างดี
ส่วนที่ไปที่มาของความศักดิ์สิทธิ์ของเจดีย์ชเวดากองจนกระทั่งใครๆก็ต้องการมาทัวร์เมียนมาร์ไหว้พระนั้น เริ่มมาจากการที่ บุเรงนอง มาขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ลานอธิฐานก่อนออกรบ และก็แน่นอนว่าท้ายที่สุดเขาก็มักจะชนะซะทุกครั้ง ยิ่งไปกว่านี้ยังมีความเชื่อของชาวมอญและชาวประเทศพม่าอีกด้วยว่าการมากมายราบไหว้เจดีย์ชเวดากองนั้นจะเป็นหนทางหมดทุกข์ ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บรวมทั้งอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของเจดีย์ชเวดากองก็คือบริเวณรอบๆเจดีย์นั้นจะมีประจำวันเกิดติดตั้งอยู่ 8 ด้าน ซึ่งสามารถเลือกขอพรตามวันเกิดเพื่อเป็นบารมีกับชีวิตได้อีกด้วย
2.เทพทันใจ (Bo Bo Gyi) อีกหนึ่งไฮไลท์ของทัวร์พม่า
เว้นเสียแต่พระมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว อีกหนึ่งโปรแกรมทัวร์พม่าไหว้พระ ที่คนนิยมไปกันก็คือ ทัวร์ไหว้พระเทวดาทันใจ ที่เจดีย์โบดาทาวน์ โดยเทพทันใจนั้นจะมีชื่อเรียกในภาษาประเทศพม่าว่า นัตโบโบยี ซึ่งมาจากคำว่า “นัต” เป็นจิตวิญญาณที่สูงกว่าผีแต่น้อยกว่าเทพตามคติความเชื่อประเทศพม่า มีหน้าที่คุ้มครองปกป้องสถานที่สำคัญต่างๆกับคำว่า “ โบโบยี ” ที่คนเมียนมาร์ใช้เรียกสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือบุคคลที่ตนยกย่อง
ส่วนต้นเหตุของชื่อ เทวดาทันใจ มาจากความศักดิ์สิทธิ์ที่บอกต่อกันปากต่อปากว่าเมื่อมาขอพรตรงนี้แล้วพอกลับไปไม่กี่วันพรนั้นก็จะสมปรารถนา จึงเป็นต้นเหตุของชื่อ เทวดาทันใจ แล้วก็เป็นเยี่ยมในต้นเหตุที่ใครหลายคนท่องเที่ยวไหว้พระประเทศพม่า
3.ทัวร์ไหว้พระประเทศพม่ากับ เทพกระซิบกระซาบ (Amadaw Mya Nan Nwe)
เมื่อพวกเราไปไหวเทพทันใจแล้ว จำนวนมากท่องเที่ยวพม่าจะพาไปไหว้พระ สักการ เทวดากระซุบกระซิบ กันต่อเลย เนื่องจากสถานที่ตั้งของเทวดากระซิบกระซาบนั้นจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเจดีย์โบดาทาวน์ โดยเทวดากระซิบกระซาบมีชื่อเรียกในภาษาเมียนมาร์ว่า “อะมาดอว์เมียะ” เป็นลูกสาวของพญานาคที่เลื่อมใสศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก เมื่อตายไปก็เลยแปลงเป็น นัต
ส่วนสาเหตุของชื่อเทวดากระซิบบอก และก็ความอำนาจที่ยั่วยวนใจไหว้พระเมียนมาร์นั้น บอกเลยว่ามีเหตุมาจากคนประเทศไทยนี่แหละ แรกเริ่มชาวพม่าก็ไหว้ อะมาดอว์เมียะ เป็นปกติ แม้กระนั้นไม่มีใครไปกระซุบกระซิบอะไร จนกระทั่งวันหนึ่งไกด์จากทัวร์ไหวพระเมียนมาร์ได้พาคนไทยไปรวมทั้งมองเห็นป้ายภาษาเมียนมาร์ที่เขียนว่า “ห้ามพูดเสียงดัง” เนื่องมาจากมีพ่อค้าแม่ขายบริเวณนั้นถูกใจโหวกเหวกโวยวาย แม้กระนั้นไกด์รู้ผิดจึงบอกกับลูกทัวร์ไปว่า “หากจะขอพรกับเทวดาองค์นี้ห้ามพูดเสียงดัง” ต่อไปลูกทัวร์คนไทยก็ไปกระซุบกระซิบขอพร ซึ่งแน่นอนชาวพม่าเห็นคนไทยทำและก็สมหวังตามต้องการจึงเริ่มทำบ้างจนแปลงเป็นธรรมเนียมปฏิบัติท้ายที่สุด
4.สักการะพระเขี้ยวแก้ว ศรีลังกา (Dalada Maligawa)
ที่ย่างกุ้งยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกชิ้นหนึ่งที่คู่ควรกับการไปไหว้พระเมียนมาร์นั่นเป็น พระเขี้ยวแก้ว ที่วัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี โดยพระเขี้ยวแก้วชิ้นนี้ได้นำมาจากประเทศศรีลังกาตั้งแต่สมัยพระผู้เป็นเจ้าบุเรงท่วม ถือเป็นสิ่งศักดาที่อยู่คู่กับประเทศพม่ามานาน ในส่วนของตัววัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณีนั้นก็ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็นการก่อสร้างแบบตามสถาปัตยกรรมแบบพุกาม สวยสดงดงาม อ่อนช้อย โดยมีข้อดีตรงที่ตัววัดจะเป็นรูปทรงแปดเหลี่ยมที่สวยงาม จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะมาไหว้พระเมียนมาร์ที่วัดนี้
5.สักการพระนอนตาหวาน (Kyauk Htat Gyi Buddha)
ถ้าหากเมืองไทยมีพระนอนที่วัดโพธิ์เป็นแหล่งยั่วยวนใจนักเดินทางแล้ว ไหว้พระพม่าก็มี พระนอนตาหวานหรือพระพุทธนอนหลับเจาทัตยี (Chauk Htat Gyi pagoda) ที่วัดพระพุทธนอนหลับเจาทัตยี เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญเช่นเดียวกัน โดยพระนอนตาหวานนี้เป็นพระพุทธรูปปริมาณยาวราวๆ 70 เมตร ใหญ่ที่สุดในประเทศเมียนมาร์มีจุดแข็งตรงที่ดวงตาที่ดูหวานรวมทั้งจีวรที่เป็นพลิ้วๆส่วนตรงศูนย์กลางฝ่าพระบาทนั้นจะมีรูปมงคล 108 ประการ ยิ่งกว่านั้นพระบาทยังมีลักษณะทับกันทำให้ผิดแผกแตกต่างกับศิลปะแบบไทยอีกด้วย

ข้อมูลที่ควรจะรู้ในประเทศพม่า

การตรวจลงตรา (VISA) 
คนไทยที่ถือหนังสือเดินทางปกติจะต้องขอรับการตรวจลงยี่ห้อจากสถานทูตเมียนมาร์ก่อนเดินทางไปประเทศพม่า ซึ่งโดยปกติจะมีอยู่ 3 ประเภท เป็น
– Tourist Visa พักพิงอยู่ในพม่าได้ 4 สัปดาห์
– Business Visa อาศัยอยู่ในประเทศพม่าได้10 อาทิตย์
– Entry Visa พำนักอยู่ในประเทศพม่าได้ 4 อาทิตย์
ผู้ที่อยากได้อยู่ในประเทศพม่าเกินกว่า 4 สัปดาห์ จะต้องยื่นเรื่องขอ Stay Permit จากกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองของประเทศพม่า ทั้งนี้คนที่อยู่ในประเทศพม่าเกินกว่า 4 สัปดาห์ จะต้องยื่น Departure Form ต่อทางการพม่าก่อนที่จะเดินทางออกนอกเมียนมาร์
ชีวิตความเป็นอยู่ ชีวิตความเป็นอยู่ในประเทศพม่า มีความสะดวกเฉพาะอยู่ในกรุงย่างกุ้งรวมทั้งเมืองใหญ่ที่เป็นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวเท่า นั้น ในกรุงปิ้งกุ้งมีโฮเต็ลชั้นเลิศได้มาตรฐานหลายแห่ง สำหรับผู้ที่จะไปอยู่เพื่อดำเนินงานหรือประกอบธุรกิจมีที่พักให้เลือกบ้านเช่า หรือ Serviced apartment การอยู่อพาร์ทเมนท์มีจุดเด่นในแง่ผู้เช่าไม่ต้องกังวลปัญหาไฟฟ้าแล้วก็น้ำ น้ำประปา แต่ว่าค่าเช่าออกจะสูงส่วนผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในกรุงย่างกุ้งหาซื้อได้ทั่วไปโดยมีสินค้าที่นำเข้าจากไทยหลายอย่างและก็ในกรุงย่างกุ้งมีร้านอาหารไทยหลาย ร้านค้า ผู้ที่จะเข้าไปเขตวัดหรือพุทธเจดีย์ จะต้องถอดรองเท้าและก็ถุงเท้า บางแห่งเรียกเก็บเงินค่าเข้าชมสถานที่ด้วย รัฐบาลได้กำหนดห้ามฝรั่งเดินทางไปยัง บางเมืองหรือบางพื้นที่ถ้านักเดินทางอยากได้ไปเมืองที่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวของพม่า ควรจะวิเคราะห์ข้อมูลกับบริษัทนำเที่ยวก่อนในกรุงย่างกุ้งมีรถโดยสารแล้วก็รถยนต์ แท็กซี่ แม้กระนั้นคนขับรถแท็กซี่ส่วนมากพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ราคาขึ้นกับการเจรจาต่อรองด้วยเหตุว่ารถแท็กซี่ไม่มีมิเตอร์ ในกรุงปิ้งกุ้งมีสถานพยาบาลที่ล้ำยุคไม่ กี่ที่ และเหมาะเพียงการปฐมพยาบาลเท่านั้น ผู้เดินทางไปพม่าควรจัดแจงยา ดังเช่นว่า ยาแก้ไข้หวัด ยาแก้ท้องเสีย รวมทั้งยาประจำตัวไปด้วย รวมทั้งควรที่จะเลือกทานอาหารที่สะอาด
ข้อเสนอ กรณีหนังสือเดินทางหาย ขอให้รีบแจ้งความต่อสถานีตำรวจเขตแดน แล้วนำหลักฐานการแจ้งความไปยื่นต่อสถานทูต เพื่อขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ถ้าหากหนังสือเดินทางหมดอายุก็สามารถขอต่ออายุหรือขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ที่สถานทูตได้เหมือนกัน คนที่อยู่ในพม่าควรตรวจตราอายุหนังสือเดินทางอยู่เสมอ
ข้อควรกระทำ
1 ในที่สาธารณะควรจะแต่งตัวนอบน้อม รัดกุม เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยเฉพาะการเข้าไปในวัดแล้วก็ศาสนสถานต้องถอดถุงเท้า รองเท้า ถุงน่อง คุณผู้หญิงไม่สมควรแต่งตัวด้วยกระโปรงสั้น 
2 จะต้องมีความเรียบร้อยในวัดแล้วก็ศาสนสถาน ไม่ส่งเสียงดังรบกวนคนอื่นๆ (ดังนี้ วัดบางพื้นที่บางทีอาจเรียกเก็บค่าเข้าชมด้วย)
3 ควรจะให้ความยำเกรงต่อคนวัยแก่ และก็ใช้คำกริยาวาจานอบน้อมเป็นระเบียบ
4 ต่อราคาผลิตภัณฑ์และค่าโดยสารรถแท๊กซี่ได้
5 ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพควรจะเตรียมพร้อมยาประจำตัวมาด้วย
6 ควรรอบคอบเลือกกินอาหารและก็น้ำจากร้านค้าที่สะอาดถูกสุขอนามัย โดยยิ่งไปกว่านั้นน้ำดื่ม ควรกินน้ำที่ใส่ในขวด
7 ควรจะแลกเงินดอลลาร์สหรัฐติดตัวมาให้พอเพียงเนื่องมาจากโรงแรมร้านค้าในพม่า ส่วนใหญ่จะไม่รับบัตรเครดิตหรือ Traveller’s Cheque สภาพของแบงค์ควรอยู่ในภาวะใหม่ ดี ไม่ยับไม่มีรอยขูดขีดแล้วก็ควรจะเป็นแบงค์รุ่นใหม่ ดังนี้ธนบัตร 100 ดอลลาร์สหรัฐ ที่หมายเลขขึ้นต้นด้วย CB โฮเต็ลและก็ร้านรวงในประเทศพม่าอาจปฏิเสธที่จะไม่รับ
8 เนื่องจากพม่าใช้ระบบการจราจรขับรถชิดด้านขวาของถนนหนทางซึ่งต่างจากไทยจะต้อง ใช้ความรอบคอบในการเดินเท้าและการข้ามถนนเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
ข้อไม่ควรกระทำ
1 ไม่ควรกล่าวติเตียน เปรียบเมียนมาร์ในทางลบ เนื่องจากว่ามีชาวพม่าจำนวนไม่น้อยซึ่งสามารถเข้าใจภาษาไทยได้
2 เมียนมาร์ได้เปลี่ยนชื่อประเทศเป็นthe Union of Myanmar ตั้งแต่ปี 2531 ก็เลยไม่ควรใช้ ชื่อเดิม(Burma) กับชาวประเทศพม่า

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า